“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” เมื่อเราได้ยินประโยคนี้ คงจะนึกถึงวันสำคัญอื่นไปไม่ได้นอกจาก วันตรุษจีน ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ที่ชาวจีน และคนเชื้อสายจีนทั่วโลกต่างตั้งตารอคอย ซึ่งช่วงเวลานี้เราจะได้เห็นบ้านเรือน ห้างร้านต่าง ๆ ตกแต่งประดับประดาไปด้วยป้ายอักษรมงคล มีการสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง พร้อมกับการไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ มีการเล่นพลุประทัดกันอย่างสนุกสนาน และกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยในเทศกาลตรุษจีน ก็คือ การเชิดสิงโต เพราะเชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ ช่วยให้มีโชคลาภ ถือว่าเป็นการเติมความมงคลให้ชีวิตตลอดทั้งปีอีกด้วย วันนี้เราจึงมี ไอเดียงานประดิษฐ์ของเล่น “หุ่นเชิดสิงโต” จากจานกระดาษ มาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็ก ๆ ทำเล่น เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ เทศกาลตรุษจีน ในปีนี้กันค่ะ
อุปกรณ์ในการทำ หุ่นเชิดสิงโต
- 1จานกระดาษ 2 ใบ
- 2กระดาษสี สีแดง สีส้ม และสีเหลือง
- 3สีอะคริลิก
- 4ปืนกาว
- 5เทปกาว 2 หน้า
- 6ตากลิ้ง
- 7ของตกแต่งต่าง ๆ เช่น ขนนก กระดิ่ง ปอมปอม
- 8คัตเตอร์
- 9หลอดกระดาษ
- 10พู่กัน
- 11กระดาษอาร์ตด้าน 300 แกรม
- 12กรรไกร
- 13คลิปหนีบกระดาษ
- 14ปากกาเมจิกสีดำ
วิธีการทำ หุ่นเชิดสิงโต
1. ดาวน์โหลด Pattern ชิ้นส่วนหุ่นเชิดสิงโต ที่ด้านล่างของบทความ แล้วปริ้นลงบนกระดาษอาร์ตการ์ด 300 แกรม แล้วระบายสี Pattern ชิ้นส่วนฐานตา กับจมูก ของ หุ่นเชิดสิงโต ให้สวยงาม แล้วทิ้งไว้จนกว่าสีจะแห้ง ถ้าไม่มีกระดาษอาร์ตการ์ด สามารถปริ้น Pattern ลงบนกระดาษ A4 แล้วนำไปวางทาบบนกระดาษแข็งสีขาว ใช้ดินสอวาดตามขอบ จากนั้นก็ใช้กรรไกร หรือคัตเตอร์ตัดออกมาให้เรียบร้อยค่ะ
2. ใช้สีอะคริลิกระบาย หลอดกระดาษ และจานกระดาษ โดยระบายสีจานกระดาษใบที่ 1 ด้วยสีเหลืองให้ทั่วทั้งใบ จานกระดาษอีก 1 ใบ ให้ระบายขอบจานด้วยสีเหลือง ส่วนบริเวณวงกลมด้านในของจาน ระบายด้วยสีแดง เพื่อทำเป็นปากด้านใน และลิ้นของ หุ่นเชิดสิงโต เวลาอ้าปากค่ะ แล้วรอจนกว่าสีที่ทาไว้จะแห้ง
3. ระหว่างรอของทุกอย่างให้แห้ง เราจะมาทำส่วนตัวของ หุ่นเชิดสิงโต กันค่ะ โดยตัดกระดาษสี สีแดง สีส้ม และสีเหลือง เป็นเส้นขนาด 21 x 3 เซนติเมตร แล้วติดเป็นวงกลมคล้องกันไปมา จำนวน 7 ห่วงค่ะ
4. เมื่อจานกระดาษแห้งแล้ว ให้นำจานกระดาษที่ระบายด้วยสีเหลือง และแดง มาพับเป็นครึ่งวงกลม โดยพับส่วนที่เป็นสีไว้ด้านใน
5. ใช้คัตเตอร์ หรือกรรไกร ตัดครึ่งจานกระดาษอีกใบ และตัด Pattern ชิ้นส่วนของหุ่นเชิดสิงโตออกมาให้เรียบร้อยค่ะ
6. นำกระดิ่ง เกี่ยวเข้าไปในคลิปหนีบกระดาษ แล้วติดลงบนจานกระดาษใบที่เราพับครึ่งค่ะ โดยติดบริเวณกึ่งกลางของขอบจาน ด้านที่เราไม่ได้ระบายสีค่ะ
7. จากนั้น นำจานกระดาษที่เราตัดครึ่งไว้ มาติดประกบเข้ากับจานกระดาษใบที่พับครึ่งไว้ค่ะ ดูให้แน่ใจว่าขอบของจานกระดาษตรงกัน แล้วใช้ปืนกาวติดแค่บริเวณขอบของจานกระดาษเท่านั้นนะคะ เว้นส่วนกลางของจานไว้ ทำทั้ง 2 ข้างเลยนะคะ
8. ใช้กรรไกรตัดจานกระดาษ ฝั่งที่ติดกระดิ่ง ให้เว้าเข้าไปประมาณ 3-5 ซม. เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถสอดมือเข้าไปได้ และขยับมือได้สะดวกค่ะ
9. ติดชิ้นส่วนที่เป็นฟันสิงโต ลงบนจานกระดาษด้านที่เป็นปากด้านใน โดยให้ติดตรงขอบสีแดง
10. แปะตากลิ้ง เข้ากับส่วนที่เป็นฐานตาทั้ง 2 ข้าง และใช้ปากกาเมจิกวาดรูจมูก จากนั้นติดลงบนจานกระดาษ (ฝั่งที่ไม่มีกระดิ่ง) เพื่อทำเป็นใบหน้าสิงโตของเราค่ะ
11. นำขนนกมาติดบริเวณ หลังตา หลังจมูก และด้านล่างจานกระดาษ(ฝั่งที่มีกระดิ่ง) เพื่อทำเป็นเคราสิงโต
12. เมื่อเราติดขนนกที่หน้าสิงโตเสร็จแล้ว ให้นำขนนกประมาณ 4-5 ชิ้น มาติดลงบนตัวสิงโตที่เราทำเตรียมไว้ค่ะ โดยติดแค่วงกลมชิ้นสุดท้าย เพื่อทำเป็นหางให้ หุ่นเชิดสิงโต ของเราค่ะ จากนั้นนำหลอดกระดาษติดทับลงไปค่ะ
13. ขั้นตอนสุดท้าย ให้นำส่วนที่เป็นหัวสิงโต และตัวสิงโต ประกอบเข้าด้วยกัน แค่นี้เราก็จะได้ หุ่นเชิดสิงโต เอาไว้เชิดเล่นในวันตรุษจีนนี้แล้วค่ะ
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ ยังสามารถเพิ่มความสนุกสนานให้กับเด็ก ๆ ได้ โดยการให้เค้าแต่งนิทานให้เราฟัง แล้วใช้หุ่นเชิดสิงโต ประกอบการเล่า หรือจะทำ หุ่นเชิดมังกร มาเล่นด้วยกันก็น่าสนุกดีนะคะ รับรองว่าเด็ก ๆ ต้องถูกใจ และสนุกกับเทศกาลตรุษจีนมากขึ้นแน่นอนค่ะ
ทำไมต้องมีการเชิดสิงโตในวันตรุษจีน ?
เพราะชาวจีนเชื่อว่าสิงโตถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นบุตรของมังกร ซึ่งมีอำนาจ และทรงพลังมากที่สุดในบรรดาบุตรทั้งหมด เมื่อมีภัยอันตรายเทพเจ้าเง็กเซียนจะส่งสิงโตมาต่อสู้ ครั้งหนึ่งมีตัวเหนียน (สัญลักษณ์สิ่งชั่วร้าย) ออกมาทำร้ายผู้คน สัตว์เลี้ยง และทำลายพืชผลไร่นาเสียหาย เทพเจ้าเง็กเซียนจึงส่งสิงโตลงมาเพื่อต่อสู้ จนชนะ และอยู่ปกป้องมนุษย์ตลอดไป แต่หลังจากนั้น ในวันตรุษจีน ตัวเหนียนได้กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้สิงโตไม่ลงมาช่วยอีกแล้ว ผู้คนจึงหาวิธีขับไล่ตัวเหนียนออกไป จึงร่วมใจกันแต่งตัวทำเลียนแบบสิงโต และสามารถขับไล่ตัวเหนียนไปได้ จากนั้นในทุกปีจึงเกิดเป็นประเพณีเชิดสิงโตขึ้นในวันตรุษจีนต่อกันมา