หากจะพูดถึงสีที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก สีเทียน คงเป็นคำตอบแรก ๆ ที่ผู้ปกครองหลายท่านจะนึกถึงกันใช่มั้ยคะ นั่นอาจเป็นเพราะ เรามักจะเห็นสีเทียนมาคู่กับการสร้างสรรค์ผลงานของเด็ก หรือเป็นสัญลักษณ์ของศิลปะสำหรับเด็กกันอยู่บ่อย ๆ ทั้งทางโฆษณาตามสื่อ หรือจากของแจกของแถมสำหรับเด็ก ตามห้างร้านต่าง ๆ เช่น ร้านไอศกรีมชื่อดังอย่าง Swensen’s ที่จะมีภาพระบายสีมาให้เด็ก ๆ ระบายเล่นระหว่างรอไอศกรีม ก็ได้เลือกสีเทียนมาให้เด็กใช้ในการระบายสีเช่นกันค่ะ พี่ออยเองคิดว่าอาจจะเป็นเพราะ สีเทียนนั้นเหมาะกับเด็กที่สุด โดยเฉพาะกับเด็กที่มีอายุ 2-4 ปี ด้วยรูปทรงและขนาดของสีเทียนที่จับได้สะดวก ง่ายต่อการใช้งาน รวมทั้งส่วนประกอบของสีเทียนนั้น ก็ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กอีกด้วย ทำให้ผู้ปกครองวางใจที่จะให้เด็ก ๆ ใช้สีเทียน ได้โดยไม่ต้องคอยระแวงเรื่องความปลอดภัยมากนัก แต่ว่า สีเทียนแบบไหนที่จะปลอดภัยและเหมาะกับเด็ก ๆ วันนี้พี่ออยจะมาแนะนำผู้ปกครองให้รู้จักชนิดของสีเทียน และการเลือกสีเทียนให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กกันค่ะ

การเลือกสีเทียน ให้เหมาะกับช่วงวัยของเด็ก
การเลือกใช้สีเทียนสำหรับเด็ก

มาทำความรู้จักกับสีเทียนให้มากขึ้นกัน

สีเทียนเป็นสีที่มีลักษณะทึบแสง สามารถระบายทับกันได้ ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักเลือกสีเทียนมาให้เด็กใช้หัดระบายสี เพราะใช้ง่ายและไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน เดิมทีแล้ว สีเทียนนั้นเกิดจากการนำเม็ดสีมาผสมกับขี้ผึ้ง หลอมเข้าด้วยกันแล้วอัดเป็นแท่ง ซึ่งในปัจจุบันการผลิตสีเทียน มีกระบวนการและส่วนผสมที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทผู้ผลิต ซึ่งบางบริษัทก็ผลิตออกมาแบบปลอดสารพิษ และในบางบริษัทก็มีการปนเปื้อนของสารที่เป็นอันตรายต่อเด็ก อย่างเช่น แร่ใยหิน ตะกั่ว หรือปรอท ซึ่งสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ มักติดมา จากส่วนประกอบของสีเทียนเอง และขั้นตอนการผลิต ทำให้สีเทียน มีราคาแตกต่างกันมาก จนผู้ปกครองอาจเกิดคำถามขึ้นได้

ดังนั้น หากผู้ปกครองต้องการที่จะเลือกสีเทียนให้กับเด็ก ๆ พี่ออยแนะนำว่าให้เลือกจาก สีเทียนที่มีการรับรองคุณภาพ ความปลอดภัย หรือมีการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ โดยให้สังเกต เครื่องหมายการค้าที่อยู่บนกล่อง หรือบรรจุภัณฑ์ของสีเทียนก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ โดยสัญลักษณ์ที่พี่ออยจะแนะนำให้ผู้ปกครองได้รู้จัก มีอยู่ 2 สัญลักษณ์ที่เป็นมาตรฐานสากล นั่นก็คือ AP และ CE ค่ะ

AP และ CE สัญลักษณ์รับรองคุณภาพและความปลอดภัย
สัญลักษณ์รับรองคุณภาพและความปลอดภัย AP และ CE

AP (Approved Product) คือ มาตรฐานรับรองอุปกรณ์สร้างสรรค์ผลงานศิลปะต่าง ๆ ว่าไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หากมีการสูดดมหรือนำเข้าปาก

CE (Conformite Europeene) คือ มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป เป็นเครื่องหมายที่เห็นกันได้บ่อย ๆ ในสินค้าทั่วไป ไม่ใช่แค่กับอุปกรณ์งานศิลปะค่ะ

ชนิดของสีเทียน

ปัจจุบัน สีเทียนนั้นถูกผลิตออกมาหลากหลายแบบ มีทั้งแบบที่ใช้งานได้กับวัสดุที่ไม่ใช่กระดาษ อย่างเช่น สีเทียนเขียนผ้า สีเทียนเขียนกระจก สีเทียนเขียนไวท์บอร์ด และแบบที่มีส่วนประกอบที่ไม่เป็นอันตราย ปลอดภัยกับเด็ก อย่าง สีเทียนปลอดสารพิษ หรือ สีเทียน Non toxic นั่นเองค่ะ ซึ่งโดยรวมแล้วสีเทียนจะแบ่งได้ตามคุณสมบัติหลัก ๆ ดังนี้

ชนิดของสีเทียน 3 แบบ สีเทียนน้ำมัน สีเทียนขี้ผึ้ง สีเทียนระบายน
ชนิดของสีเทียน แบ่งได้ 3 แบบ สีเทียนน้ำมัน สีเทียนขี้ผึ้ง สีเทียนระบายน้ำ

สีเทียนน้ำมัน มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ สามารถใช้ระบายได้เหมือนสีเทียนทั่วไป แต่ก็มีข้อควรระวัง เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมัน หากเด็ก ๆ นำไปขีดเขียนบนผนังหรือพื้นแล้วล่ะก็ พี่ออยบอกเลยว่าต้องทำใจนิดนึงนะคะ เพราะสีเทียนชนิดนี้ ล้างออกยากมาก

สีเทียนขี้ผึ้ง สีเทียนชนิดนี้ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตรายกับเด็ก ๆ แม้จะกัดหรือเอาเข้าปาก แต่สีเทียนขี้ผึ้ง ในบางบริษัทอาจจะมีสารพิษเจือปนมาด้วย ผู้ปกครองควรสังเกตเครื่องหมายรับรองคุณภาพบนกล่อง หรือบรรจุภัณฑ์ให้ดีก่อนนะคะ

สีเทียนระบายน้ำ เป็นสีเทียนที่เจือจางได้ด้วยน้ำ สามารถล้างออกได้ ทำให้ผู้ปกครองไม่ต้องคอยห่วงเรื่องบ้านเลอะ เมื่อเด็ก ๆ นำสีชนิดนี้ไปละเลงที่พื้นหรือผนังบ้าน ซึ่งสีเทียนเขียนกระจก และสีเทียนเขียนไวท์บอร์ด ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยค่ะ

Tip & Trick
วิธีการสังเกตชนิดของสีเทียน จากบรรจุภัณฑ์ ดูได้ง่าย ๆ จากข้อความ หรือ สัญลักษณ์บนกล่องนั่นเองค่ะ สีเทียนน้ำมัน จะมีคำว่า Oil หรือ Oil crayons อยู่บนกล่อง สีเทียนขี้ผึ้ง จะมีคำว่า Wax ที่แปลว่า ขี้ผึ้ง อยู่ ซึ่งจะเห็นได้ในสีเทียนทั่วไป ว่าจะมีคำว่า Wax crayons บนกล่องสีเทียน ส่วนสีเทียนระบายน้ำ ให้มองหาคำว่า Water อย่างเช่น Water soluble และ Blends with water หรือรูปน้ำ และ พู่กัน ที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์ค่ะ นอกจาก คำ หรือข้อความที่กล่าวมาแล้ว อาจมีข้อความที่บอกให้รู้ว่า เป็นสีเทียนปลอดสารพิษ ไม่เป็นอันตราย เพิ่มเข้ามา ด้วยคำว่า Non toxic หรือ Non toxic crayons นั่นเองค่ะ

การเลือกใช้สีเทียนตามช่วงวัย

วัย 2-3 ขวบ ควรเลือกใช้สีเทียน ที่มีขนาดแท่งสั้น มีความอ้วนพอประมาณ เพราะการใช้สีเทียนของเด็กวัยนี้จะระบายโดยการกำแท่งสี เนื่องจากกล้ามเนื้อมือยังไม่แข็งแรง และจำนวนเฉดสีที่ใช้ควรมี 6-12 สี ก็เพียงพอ เพราะเด็กยังแยกแยะความหลากหลายของเฉดสีไม่ได้ ส่วนเนื้อสีก็ไม่ควรนิ่มเกินไป เพราะจะทำให้สีหักง่าย และที่สำคัญ สีเทียนสำหรับเด็กวัยนี้ ควรเลือก สีเทียนปลอดสารพิษ (Non toxic crayons) เพราะปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายกับเด็ก

วัย 3-4 ขวบ เด็กวัยนี้มีกล้ามเนื้อมือที่แข็งแรงมากแล้ว มีความคล่องตัวในการจับใช้ สีเทียน มากขึ้น ดังนั้น การเลือกสี ที่มีเนื้อสีที่อ่อนนุ่ม รูปทรงแท่งสีเทียน เรียวบาง หรือสีเทียน ที่มีขนาดไส้สีเล็ก สามารถเหลาปลายแท่งสีให้เด็กระบายเก็บรายละเอียดผลงานได้ ส่วนเฉดสีที่แนะนำสำหรับเด็กวัยนี้ สามารถใช้ได้ตั้งแต่ 12-24 สี จะส่งเสริมให้เด็ก ๆ สนุกกับการระบายสีเทียนมากขึ้น

วัย 5-8 ขวบ เด็กวัยนี้สามารถควบคุมน้ำหนักมือได้แล้ว ดังนั้นการนำสีเทียนที่มีความพิเศษเพิ่มขึ้นมา อย่าง สีเทียนระบายน้ำ มาให้เด็ก ๆ ในวัยนี้ได้ลองใช้ จะทำให้เด็กไม่เบื่อกับการสร้างผลงาน และเป็นการเพิ่มประสบการณ์ในงานศิลปะ ให้กับเด็กๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มสีเทียนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่จะมีราคาสูง ผู้ปกครองสามารถเลือกหามาให้เด็ก ๆ ใช้กันได้ตามความเหมาะสมเลยนะคะ

สีเทียนยี่ห้อ AMOS, MASTER ART, CRAYOLA, STAEDTLER , SILK
สีเทียนยี่ห้อต่าง ๆ AMOS, MASTER ART, CRAYOLA, STAEDTLER , SILKY

ยี่ห้อของสีเทียน

สีเทียนเป็นสีที่มียี่ห้อให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งจะแตกต่างกันไปตาม คุณภาพ ราคา และการใช้งาน พี่ออยขอแบ่งยี่ห้อสีเทียน ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ราคาย่อมเยา หาซื้อได้ง่าย ราคา 20-80 บาท ในแบบ 6-12 สี และกลุ่มที่มีราคาแพง ซึ่งจะมีราคาประมาณ 200-500 บาท ในแบบ 6-12 สีเหมือนกัน

กลุ่มที่ราคาย่อมเยา หาซื้อได้ง่าย ก็มีตั้งแต่แบบคุณภาพปานกลางไปจนถึงคุณภาพดี รวมทั้งสีเทียน Non toxic ก็มีอยู่ในสีกลุ่มราคานี้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อที่ผลิตในไทยอยู่แล้ว อย่าง STEADTLER, Master Art, Horse (ตราม้า) ที่เราคุ้นเคยกันดี อยู่ที่ว่าเราจะเลือกซื้อยี่ห้อไหนนะคะ ส่วนตัวพี่ออยเอง ถ้าเป็นสีเทียนในกลุ่มนี้ พี่ออยชอบใช้สีเทียนของ Master Art ค่ะ เพราะสีเทียน Master Art มีสีสดชัด เนื้อสีนุ่ม ระบายลื่น สีติดทน ไม่ซีดจาง และไม่หักง่าย ทนต่อแรงกดได้ดี นอกจากนี้ ตัวแท่งสียังมีทั้ง ขนาดจัมโบ้ และซุปเปอร์จัมโบ้ ทำให้เด็ก ๆ จับได้ถนัดมือมากขึ้นอีกด้วย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ สีเทียน Master Art นั้นปลอดภัยสำหรับเด็ก เพราะไม่มีส่วนผสมของโลหะหนัก และได้มาตรฐาน มอก.

ระบายสีม้าน้ำด้วยสีเทียน ยี่ห้อ Master Art สีไม่ซีดจาง แท่งสีทนต่อแรงกดได้ดี

ส่วนในตัวสีที่มีราคาแพงขึ้นมา อาจเพราะมีคุณภาพ หรือคุณสมบัติบางอย่างที่เพิ่มมากขึ้น อย่าง ล้างออกง่าย เขียนตัวเขียนหน้าได้ ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก ซึ่งยี่ห้อที่หาซื้อได้ในไทยก็จะมี Crayola, AMOS, Aozora,OMMO, Baby Roo เป็นต้น พี่ออยขอยกตัวอย่าง สีเทียน AMOS ที่พี่ออยชอบเป็นการส่วนตัว จากการที่ได้ใช้เอง และใช้ทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ หลายครั้ง ตัวเนื้อสีมีความนุ่ม สีสดชัด ระบายลื่นมือ ไม่เป็นขุย ตัวแท่งสี เป็นพลาสติก แบบหมุน คล้ายแท่งลิปสติก ใช้งานง่าย ไม่เลอะมือ ทำให้แท่งสีไม่หัก ระหว่างระบาย

ระบายสีม้าน้ำด้วยสีเทียน ยี่ห้อ AMOS ให้ความรู้สึกลื่นมือ ระบายง่าย ได้สีสดชัด

ในการทำกิจกรรม ระบายสีกับเด็กๆ ที่พี่ออยแนะนำสีจำนวนแค่ 6-12 สี นั่นเป็นเพราะว่า เด็กเล็ก ๆ จะชอบใช้สีวนซ้ำอยู่แค่เฉพาะสีที่ชอบ ยังไม่รู้จักการไล่สี ผสมสี หรือเทคนิคอื่น ๆ ดังนั้น ในการทำผลงานศิลปะกับเด็กวัย 2-4 ปี พี่ออยแนะนำให้สอนเด็ก ๆ เลือกใช้สีจากจำนวนสีน้อย ๆ ก่อน เพราะเด็กวัยนี้ ยังแยกแยะไม่ออกในเรื่องความแตกต่างของเฉดสี เราควรสอนจากจำนวนสีที่น้อย เพื่อง่ายต่อการอธิบายหรือสอน ส่วนเด็กในวัย 5-8 ปี นั้น สามารถให้เด็ก ๆ ใช้สีที่หลากหลายขึ้น เช่น 24 สี โดยเด็กในวัยนี้เริ่มที่จะสามารถรับฟังคำอธิบาย และตัดสินใจเลือกสีที่มีความหลากหลายของเฉดสีได้แล้ว ดังนั้น การเลือกใช้เฉดสีกับเด็ก จึงมีความสำคัญอย่างมาก

ความแตกต่างของสีเทียน ในกลุ่มราคาที่ต่างกัน

นอกจากวัสดุและกระบวนการผลิต ที่ทำให้สีเทียนมีราคาต่างกันแล้ว พี่ออยจะลองเอา สีเทียน ที่พี่ออยชอบ ใน 2 กลุ่มราคามาระบาย เพื่อให้ผู้ปกครองเปรียบเทียบ โดยพี่ออยได้นำภาพที่ระบายด้วยสีเทียน Master Art เทียบกับภาพที่ระบายด้วย สีเทียน AMOS เสร็จแล้ว มาให้ดูกัน

สีเทียน AMOS ให้สีสดชัด เรียบเนียน ระบายง่าย ลื่นมือ ไม่ต้องลงน้ำหนักมือมาก เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่เพิ่งหัดระบายสี และกล้ามเนื้อมือยังไม่แข็งแรงมากนัก จึงไม่แปลกที่เด็ก ๆ ที่ได้ลองใช้สีเทียน AMOS จะชอบมาก เพราะเด็ก ๆ จะไม่เหนื่อยในการระบาย ผลงานมีสีสันสดใส และงานเสร็จไว ส่วนสีเทียน Master Art ให้สีที่สดชัดเช่นกัน เนื้อสีไม่นิ่มหรือแข็งเกินไป ทำให้สามารถควบคุมทิศทางการระบาย เก็บรายละเอียดส่วนเล็ก ๆ ของภาพได้ง่าย ซึ่งสีเทียน Master Art จะช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือไปพร้อมกับการสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามได้เป็นอย่างดี

ด้านซ้าย ระบายด้วยสีเทียนยี่ห้อ Master Art และ ด้านขวา ระบายด้วยสีเทียนยี่ห้อ AMOS

สีเทียนสำหรับเด็ก ทั้ง 2 ยี่ห้อ ที่พี่ออยแนะนำ เป็นเพียงความชอบส่วนตัวเท่านั้น หากผู้ปกครองต้องการซื้อหาให้เด็ก ๆ ใช้งาน ก็สามารถเลือกตามความชอบ และความเหมาะสมกันได้เลยนะคะ สิ่งสำคัญอีกเรื่องในงาน ระบายสี ที่มีผลกับความรู้สึกของเด็ก ซึ่งผู้ปกครองควรให้ความสำคัญ คือ ขนาด รูปทรง จำนวน ความซับซ้อนของภาพวาดที่จะให้เด็กมาระบาย สำหรับเด็กเล็ก ควรหาภาพที่รายละเอียดน้อย ๆ มาให้ลองระบาย และไม่ควรเป็นภาพที่ใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้เด็ก ๆ เหนื่อยในการระบาย จนอาจหมดสนุกได้ ถ้าภาพที่ให้ระบายมีขนาดใหญ่เกินไป เด็ก ๆ อาจจะทำไม่เสร็จ และไม่อยากทำต่อ

พี่ออยและน้องแอลล์กำลังระบายสีเทียนภาพหอยมุกอย่างสนุกสนาน
พี่ออยและน้องแอลล์กำลังระบายสีเทียน
ผลงานระบายสีเทียนหอยมุกสีรุ้งของน้องแอลล์เสร็จแล้วค่ะ
หอยมุกสีรุ้งของน้องแอลล์เสร็จแล้วค่ะ

โดยภาพรวมแล้ว การระบายสีด้วยสีเทียนเป็นอะไรที่สนุกมาก ๆ เลยนะคะ เพราะว่า สีเทียนนั้นไม่ต้องออกแรงกด และใช้น้ำหนักมือมาก เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ในวัย 2-4 ปี ที่กล้ามเนื้อมือยังไม่แข็งแรง พี่ออยเลยอยากแนะนำให้ผู้ปกครองลองหาซื้อ สีเทียน มาให้เด็ก ๆ ใช้กันค่ะ สำหรับเด็ก ๆ วัยกำลังซน พี่ออยอยากให้ผู้ปกครองซื้อ สีเทียนแบบที่ล้างออกง่าย กับ สีเทียนปลอดสารพิษ หรือ Non toxic ให้เด็ก ๆ จะอุ่นใจมากกว่านะคะ โดยหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียน และอุปกรณ์ศิลปะ อย่าง Central, Robinson, B2S, Officemate และ ร้านสมใจ หรือสะดวกสั่งซื้อทางออนไลน์ ก็มีทั้งในเว็บไซต์ของบริษัทแต่ละยี่ห้อโดยตรง หรือสั่งซื้อผ่าน Shopee, Lazada ก็ได้นะคะ

ในครั้งหน้า พี่ออยจะนำเทคนิคเกี่ยวกับการใช้สีเทียน ที่จะทำให้เด็ก ๆ สนุกกับงานศิลปะมากขึ้นมาแนะนำให้ผู้ปกครองได้รู้กันค่ะ อย่าลืมติดตามต่อตอนหน้ากันนะคะ